วันที่รำลึกถึงพระรัตนตรัย แล้ว ยังมีความสำคัญ สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีน อีกวันหนึ่ง
ซึ่งเรียกว่า วัน “ หง่วนเซียว ” หรือวันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เชื่อกันว่า เป็นวันคล้าย
วันเกิด-รุ้แจ้ง-ดับขันธ์ ของเจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ
ของชาวจีนมาอย่างยาวนาน หลายชั่วอายุคน
ซึ่งปีหนึ่งจะมีสามหน และวันที่ตรงกับ วันมาฆบูชา ของทุกๆปี ( เฉพาะในไทย )
จะเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ วันแรกของปี
ที่ชาวจีนจะทำบุญใหญ่ รับปีใหม่จีน คือ วันพระจีนแรกหลังตรุษจีน นั่นเอง
สำหรับ ชาวกรุงเทพฯแล้ว สถานที่ๆ ชาวไทยเชื้อสายจีน
ต้องไปไห้วให้ได้ในวันนี้ จะมีอยู่ 2 แห่ง คือ
1. วัดมังกร กมลาวาส หรือที่ ชาวไทยเชื้อสายจีนเรียกว่า
“ วัดเล่งเน่ยยี่ ” ( ซึ่ง ตอนนี้มี 2 แห่ง แห่งแรกที่ ถ.เจริญกรุง แห่งที่ สอง
ที่ อ.บางบัวทอง ) โดย ที่นี่ จะไหว้บูชาเทพเจ้าหลายองค์ แต่ที่สำคัญ และขาดไม่ได้คือ
– เทพเจ้า ไท่ส่วยเอี๊ย ผู้ดูแลดวงชะตาของมนุษย์ทุกคน เพื่อกราบไหว้ ขอพร
ให้ดวงชะตาในปีนี้ พบเจอแต่สิ่งดี และแก้เคราะห์กรรม ของผู้ที่ เกิดในปีนักสัตว์
ที่ไม่ถูกโฉลก ( ชง ) และเพื่อรำลึก พระธรรมคำสอน นำไปใช้ในการดำรงชีวิต
ซึ่งใช้ผลไม้ 5 อย่าง และกระดาษทองหรือตั่วกิม พับใส่ กระดาษสำหรับไหว้เจ้า
ที่พับไว้เป็นรูปกระทง ที่เรียกว่า “กุ๊ยนั๊ง”
ไหว้บูชา อธิษฐาน ขอพร ก่อนนำไปเผาในเตาที่ทางวัด จัดให้
เพื่อส่งเซ่น..แด่เทพเจ้า ไท่ส่วยเอี๊ย
– เทพเจ้า ไฉ่ซิ้งเอี๊ย หรือท่านเทพเจ้าที่ใครๆอยากพบมากที่สุด
ก็คือท่านเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
นั่นเอง ส่วนใหญ่ จะใช้ส้ม จำนวนหนึ่ง (3หรือ5หรือ9)
และกระดาษไหว้ ที่เรียกว่า เพียงเท่าจี้ พร้อมตั่วกิม
ในการบูชา อธิษฐาน ขอโชคลาภ.
2.ศาล เจ้าพ่อเสือ ซึ่งที่นี่จะมีเทพใหญ่ที่ต้องไหว้ คือ
- ตั่วเล่าเอี๊ย เปรียบได้กับเทพประจำเมืองของชาวไทย
โดยมีผลไม้ 5 อย่าง และ กระดาษเซ่นไหว้เช่นกัน
- เจ้าพ่อเสือ ตรงนี้มีพิเศษ ใช้เนื้อหมูสามชั้น หั่นเป็นชิ้น กับข้าวเหนียว 5 ก้อน
โดยจะมีคนคอยรับเครื่องเซ่นป้อนเข้าปากเสือด้วย. โดยเฉพาะ ปีนี้เป็นปีเสือ
ผู้ที่เชื่อว่าตัวเอง วัน-เดือน-ปีเกิด ชงกับปีนี้จึงมาไหว้กันมากมาย
ส่วนเรื่องการแก้ชงอย่างไรขอเป็นคราวหน้านะครับ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น